น้ำคร่ำ
คือ น้ำที่่อยู่ในถุง ซึ่งล้อมรอบทารกในครรภ์อีกทีหนึ่ง น้ำคร่ำมีองค์ประกอบเป็นน้ำ 98 % ส่วนที่เป็นของแข็งประกอบด้วยส่วน ต่าง ๆ 2 % ในน้ำคร่ำจะมีเซลล์จากตัวทารกที่หลุดออกล่องลอยอยู่ ทำให้เราสามารถนำมาปั่นหาเซลล์ของทารก เพื่อการศึกษาและวินิจฉัยโรคได้
ทำไมจึงต้องเจาะน้ำคร่ำ
เพื่อตรวจหาความผิดปกติทางโครโมโซม เช่น มีจำนวนมากกว่าปกติ หรือน้อยกว่าปกติ หรือมีรูปร่างที่ผิดปกติ ทั้งหมดที่กล่าวถึงนี้จะทำให้ทารกมีโอกาสที่จะมีความผิดปกติ
สตรีที่ควรได้รับการเจาะน้ำคร่ำเพื่อหาความผิดปกติทางโครโมโซมของทารก ได้แก่
- มีอายุตั้งแต่ 35 ปี เป็นต้นไป
- มีประวัติเคยคลอดบุตรที่ปัญญาอ่อนจากโครโมโซมผิดปกติ
- มีประวัติเคยคลอดบุตรที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม
- มีประวัติเคยคลอดบุตรที่มีความพิการแต่กำเนิด
จะเจาะน้ำคร่ำเมื่อไร
อายุครรภ์ที่เหมาะสมในการเจาะน้ำคร่ำอยู่ในช่วง 16 - 18 สัปดาห์ (ประมาณ 4 เดือน กว่า) เพราะในช่วงนี้ ทารกจะหนักประมาณ 100 กรัม และยาวประมาณ 16 เซนติเมตร และมีน้ำคร่ำประมาณ 150 - 200 ซีซี ทำให้สามารถทำได้ค่อนข้างง่าย และช่วงอายุครรภ์นี้เป็นช่วงที่เซลล์ในน้ำคร่ำมีปริมาณมากพอที่จะเพาะเลี้ยงเพื่อการตรวจ
วิธีการเจาะน้ำคร่ำ ทำอย่างไร
แพทย์จะตรวจครรภ์ด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ เพื่อตรวจดูท่าของทารก อายุครรภ์ที่แน่นอน ตำแหน่งที่รกเกาะ และเลือกหาตำแหน่งที่จะเจาะน้ำคร่ำ วิธีการเจาะให้เทคนิคปราศจากเชื้อ และฉีดยาชาเฉพาะที่ตำแหน่งที่จะใช้เข็มเจาะ เจาะผ่านโพรงมดลูกเข้าไปในถุงน้ำคร่ำ ขณะที่เจาะ แพทย์จะใช้เครื่องอัลตราซาวนด์ดูตำแหน่งเข็มตลอดเวลา เพื่อไม่ให้โดนตัวของทารกและรก ดังนั้นโอกาสที่จะได้รับอันตรายจึงมีน้อยมาก
อันตรายจากการเจาะน่ำคร่ำ
ปัจจุบันแพทย์ที่ทำการเจาะน้ำคร่ำมีประสบการณ์และความชำนาญมาก ฉะนั้นภาวะแทรกซ้อนหรืออันตรายที่จะเกิดจากการเจาะน้ำคร่ำนั้นมีน้อยมากๆ ที่พบได้แก่ การติดเชื้อ น้ำคร่ำรั่วซึม ตลอดจนการแท้งบุตร
การเตรียมตัวก่อนการเจาะน้ำคร่ำ
แพทย์จะให้ความรู้และอธิบายเกี่ยวกับการเจาะน้ำคร่ำให้คู่สามีและภรรยาทราบก่อน จากนั้นจึงเป็นการตัดสินใจว่าจะรับการตรวจหรือไม่
ถ้าตัดสินใจว่าจะรับการตรวจน้ำคร่ำ ท่านไม่ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ แต่ประการใดสามารถตรวจได้ทันที
การปฏิบัติตัวหลังการเจาะน้ำคร่ำ
หลังการเจาะน้ำคร่ำแพทย์จะให้นอนพักประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ท่านจะได้รับการตรวจอัลตราซาวนด์ซ้ำว่าทารกยังอยู่ในสภาพปกติ เพื่อให้ความมั่นใจและลดความวิตกกังวลของมารดา หลังจากนั้นจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้
การปฏิบัติตัวที่บ้าน
- ถ้าปวดแผลบริเวรที่เจาะสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
- ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบริเวณที่เจาะแต่อย่างใด อาบน้ำได้ตามปกติ
- หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณหน้าท้อง เช่น ยกของหนัก หรือการขึ้นลงบันได
- ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกทางช่องคลอด น้ำเดิน มีไข้ ปวดท้องมากให้รีบมาพบแพทย์ทันที
ที่มา : การเจาะน้ำคร่ำในสตรีตั้งครรภ์ , รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น